LINE : Register Auto LINE : @dtb88

ทำไม ราคาแฮนดิแคป จึงเป็นกลยุทธ์ที่ง่าย สำหรับผู้เดิมพัน 

การแทงบอลกับ ราคาแฮนดิแคป เป็นที่นิยมอย่างมากในเว็บแทงบอลออนไลน์ Databet88 รวมไปถึงในโต๊ะบอล สำหรับผู้เริ่มต้นในโลกของการเดิมพัน การเข้าใจหลักการและการจัดลำดับความสำคัญอย่างถูกต้อง อาจเป็นเรื่องยาก แต่เชื่อว่าการเรียนรู้ท้งหมดอย่างจริงจังจะทำให้คุณกลายเป็นมืออาชีพได้แน่นอน

แนวคิดเบื้องต้น ของการ เล่นราคาแฮนดิแคป ที่ควรรู้

โดยธรรมชาตินักพนันจะเข้าใจเรื่องราวของความได้เปรียบเสียเปรียบ หากมีการดวลกันของคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งต่างกัน ก็เข้าใจได้ว่าการบวกแต้มต่อให้กับทีมที่อ่อนแอกว่า

สิ่งนี้เป็นหนึ่งในวิธีการที่จะปรับความสมดุลให้ทั้ง 2 ทีมมีโอกาสที่เท่าเทียมกันหรือใกล้เคียงกันมากที่สุด  เจ้ามือจะเพิ่มแต้มต่อในเชิงบวกกับทีมใดทีมหนึ่ง และแต้มตอนนี้จะไปเพิ่มภาระในการแข่งขันให้กับทีมที่แข็งแกร่งกว่าโดยอัตโนมัติ ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับ มักจะอยู่ที่ประมาณ 1 เท่าบวกลบเล็กน้อยในทั้งสองฝั่ง นั่นหมายความว่าค่าความได้เปรียบเสียเปรียบของทั้ง 2 ทีมได้ถูกปรับให้มีความสมดุลกันแล้ว

หน้าที่ของผู้เดิมพันคือ ตรวจสอบในรายละเอียดว่าแต้มต่อที่บวกเพิ่มให้กับทีมรองนั้น หมายถึงอะไร มันเป็นตัวเลขที่เกิดขึ้นจากอะไร  มันคุ้มค่าที่จะเดิมพันหรือไม่ และมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อเลือกเดิมพันในฝั่งใดฝั่งหนึ่งอย่างถูกต้อง

โดยปกติแล้ว ราคาแฮนดิแคป แต้มบวกที่ถูกเพิ่มมักแสดงออกมาในรูปแบบของทศนิยม เช่น 0.25 , 0.5 , 0.75 หรืออาจเป็นจำนวนเต็ม 1 , 2  เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าความแข็งแกร่งของทีมต่ออยู่เหนือทีมรองมากแค่ไหน ดังนั้น ของการเดิมพันในแถบเอเชียจะแสดงผลอัตราต่อรองเป็น 0.5 , 1.25 , 2.5 , 3.25 นั่นเอง

เมื่อเห็น ราคาแฮนดิแคป คุณมองเห็นรายละเอียดอะไรบ้าง  

สมมุติการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2021-22 ระหว่าง ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และ เบิร์นลี่ย์ จะเห็นได้ว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีความได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัดเพราะอยู่ในอันดับที่ 1 และเบิร์นลี่ย์อยู่ในอันดับที่ 18 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ซึ่งมีแต้มห่างกันเกือบ 4 เท่า ดังนั้นทั้งสองทีมนี้ดวลกันนั่นหมายถึงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีโอกาสชนะเบิร์นลี่ย์อย่างเห็นได้ชัด นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในแบบนี้ แมนยู มีความได้เปรียบ เบิร์นลี่ย์ เกือบ 2 ลูก ดังนั้นข้อกำหนดของการตั้ง ราคาแฮนดิแคป จึงน่าจะอยู่ในช่วงประมาณ 1.5-2.0 ลูก นั่นเอง

ดังนั้น ในการแข่งขันระหว่าง เบิร์นลี่ย์และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยเบิร์นลี่ย์ เป็นเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นทีมรอง เกมการแข่งขันเริ่มต้นในเกมการแข่งขันจริงยังคงเป็น 0-0 แต่สำหรับการเดิมพันจะเริ่มต้นที่ 2- 0 ซึ่งหมายความว่า

1.เบิร์นลี่ย์จะชนะการเดิมพัน ก็ต่อเมื่อ

  • จบเกม ด้วยสกอร์เสมอ เช่น ถ้าเกมการแข่งขันจบลงที่แต้มเสมอกัน 0-0 , 1-1 , 2-2  เบิร์นลี่ย์จะชนะในการเดิมพันทันที
  • จบเกมด้วยสกอร์ที่เบิร์นลี่ย์ ชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ด้วยแต้มที่เท่ากับหรือมากกว่า 1 ประตูขึ้นไป
  • จบเกมด้วยสกอร์ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทำประตูได้เพียง 1 ประตู เช่น  ถ้าสกอร์จบเกมที่  0-1 เบิร์นลี่ย์จะชนะการเดิมพัน เพราะมีสกอร์จากแต้มต่อที่มากกว่า

2.เบิร์นลี่ย์และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เสมอกันในการเดิมพันก็ต่อเมื่อ

  • จบเกมด้วยสกอร์ 0-2 เท่านั้น

3.แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด จะชนะการเดิมพัน ก็ต่อเมื่อ

  • จบเกมด้วยสกอร์ 0-3 หรือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจะทำประตู มากกว่านี้
  • ถ้าเบิร์นลี่มีสกอร์เกิดขึ้นไม่ว่าจะกี่ประตูก็ตาม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด จะต้องทำประตูให้ มากกว่า (ผลต่าง) มากกว่า 3 ประตู จึงจะชนะ

จะเห็นได้ว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจะมีโอกาสชนะเบิร์นลี่ย์ได้ ด้วยเงื่อนไขเดียวนั่นคือจะต้องทำประตูในเกมการแข่งขันให้ มีแต้มต่าง มากกว่า 3 ประตูขึ้นไป

โดยหลักการแล้วความได้เปรียบของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่มีต่อ เบิร์นลี่ย์ ในเชิงสถิติอาจเป็นไปในตามการวิเคราะห์และอัตราต่อรองที่คุณเห็นในตารางเดิม แต่ในความเป็นจริงความได้เปรียบอาจไม่ได้สูงขนาดนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้

  • ตัวนักเตะ มีความเป็นไปได้ว่าเมื่อทีมหัวตารางเจอกับทีมท้ายตาราง ที่มีความเป็นต่ออย่างชัดเจน เรียกได้ว่าแค่ลงมาวิ่งให้เต็มสนามให้ครบ 90 นาทีก็พอ ในลักษณะการแข่งขันแบบนี้กุนซืออาจเลือกใช้ผู้เล่นตัวสำรองเพื่อออมแรงผู้เล่นตัวจริงเอาไว้ในแมตที่สำคัญกว่านี้
  • ผู้เล่นหลักบาดเจ็บ มีเฉพาะผู้เล่นสำรองเท่านั้นที่ลงแข่งขันจนทำให้เกมพลิก ทีมท้ายตารางกลับกลายเป็นทีมที่มีความได้เปรียบ ขึ้นมาโดยธรรมชาติทันที
  • ความคาดหวังของทีมหัวตารางลดลง ถ้าไม่ได้มีเรื่องของการทำสถิติการเล่นฟุตบอลแบบไร้พ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง บางครั้งการเป็นทีมหัวตารางที่มีคะแนนทิ้งห่างทีมอันดับ 2 หรือที่มันดับล่างลงมาแบบขาดลอย โดยเฉพาะในช่วงท้ายฤดูกาล ทีมหัวตาราง (อันดับ 1 )อาจไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการชนะหรือแพ้ อันดับในตารางคะแนน  ดังนั้นจึงเล่นแบบออมแรง และบ่อยครั้งที่ทีมต่อมักจะแพ้ทีมรองในช่วงเวลานี้
  • ทีมท้ายตารางเกิดลูกฮึด ที่จะกู้ศักดิ์ศรีหรือต้องการทุ่มเทกับเกมนี้ เพื่อหนีการตกชั้น  ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทีมอันดับสุดท้ายของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกจะต้องตกชั้นไปอยู่ในลีก 2 แน่นอนว่าแฟนบอลและสปอนเซอร์สนับสนุนอาจจะถอนตัว หรือลดระดับความสนใจในสโมสรส่งผลต่อรายได้นักเตะ  ดังนั้นนักเตะอาจต้องฮึดเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับแฟนบอลและสปอนเซอร์เพื่อความยั่งยืนในอาชีพต่อไป